เคสอลูมิเนียมไร้สาย MOD โฟมแล้วจากโรงงาน

ดีไซน์คลีน ไม่มี SIDE PANEL ด้านข้าง

LAYOUT 75%

RGB BACKLIT


Hotswapable

GASKET MOUNR

CUSTOM KNOB

MULTI-MODE

Designs

01

Side Printed keycaps

คีย์แคปแบบ Side printed ที่ช่วยทำให้คีย์บอร์ดดูคลีนมากขึ้น โดยที่มีไฟลอดบริเวณอักษรด้านข้าง

02

Fully Upgrade Programable Knob

ปรับปรุง ดีไซน์ของรุ่นใหม่ ใช้ดีไซน์ลอยตัว (Floating Design) ช่วย ป้องกันรอยขีดข่วน บนเคสที่พบในรุ่นก่อน และยังหมุนได้สมูทมากยิ่งขึ้น

03

Unique Side Panel

ตัดขอบด้านข้างออกให้ดีไซน์ดูคลีนยิ่งขึ้น

รองรับการใช้งานยาวนานทั้งวัน

ด้วยแบตเตอรี่อึดถึง 6000mAh

ถึก ทน อึด ของจริง แบตเตอรี่ ความจุสูง ใช้งานได้นาน

RGB Backlit

ไฟ RGB แบบ South Facing ที่มาพร้อมการสลับโหมดกว่า 20 โหมด พร้อมสามารถคัสตอมไฟได้เองกว่า 16.8 ล้านสี

Switch Options

Akko Piano Pro Switch

Linear Switch ที่ให้ฟีลลิ่งการกดที่ลื่น สมูท และมีเสียงที่แน่น นุ่ม ทุ้ม เสียงเบากว่าตัว Akko Cream Yellow

Akko Cream Yellow Pro Switch

Linear Switch ที่ให้ฟีลลิ่งการกดที่ลื่น สมูท และมีเสียงที่แน่น นุ่ม ทุ้ม ไม่ติดแหลม เหมาะกับการพิมพ์งานอย่างคล่องมือ (อย่าลืมใส่ Operating force)

Tri-Mode Connecting

Keycap

คีย์แคปเป็น PBT Dye-Dublimation , Cherry profile

3 Mode Connection

สามโหมด ครบเครื่องในตัวเดียว จะต่อแบบไหนก็ไม่มีสะดุด
Wired / Bluetooth / 2.4G

Hotswapable

ถอด-เปลี่ยนง่าย ใส่ได้ทุกแนว รองรับสวิตช์ทั้ง 3-pin และ 5-pin

Web-based Online Driver

FAQs

Please read our FAQs page to find out more.

Layouts WK / WKL คืออะไร?
  • WK ย่อมาจาก WINKEY มีปุ่ม WIN
  • WKL ย่อมาจาก WINKEYLESS ไม่มีปุ่ม WIN

ทั้งสองมีความแตกต่างกันที่ปุ่มแถวด้านล่าง นั่นคือ CTRL WIN และ ALT ซึ่ง Layout ในไทยที่นิยมใช้ส่วนใหญ่คือ WK

PCB แตกต่างกันอย่างไร?
  • All PCBs: ใช้งานได้ทั้งหมด 3 โหมด
  • รองรับ Spacebar ทั้งแบบยาว 6.25u และยาว 7u

มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ

  1. 1.2mm Tri-mode (Flex-cut/มีไฟ RGB)
  2. 1.2mm Tri-mode (Flex-cut/ไม่มีไฟ RGB)
  3. 1.6mm Tri-mode (Non Flex-cut/ไม่มีไฟ RGB)

ความแตกต่าง

ความหนาของ PCB มีผลในเรื่องของเสียงและฟิลลิ่งการพิมพ์ PCB 1.2mm ให้ความ Flex และเสียงที่ทุ้ม (Thock) มากกว่า PCB 1.6mm ที่มีความแข็งและหนากว่า ซึ่งจะให้เสียงแหลมที่ออกทางโทน Clack

วิธีการเลือก เพลท (Plate)

เพลทของ QK80 MK2 มีวัสดุให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ

เรียงลำดับจากความแข็งที่สุดไปอ่อนที่สุด

  1. Carbon Fiber (Non Flex)
  2. Aluminium (Non Flex)
  3. FR4 (Flex-Cut)
  4. POM (Non Flex)
  5. PC (Non Flex)

  • FR4 เป็ยตัวเลือกเพลทเดียวที่มีการตัด Flex-Cut ทำให้ได้ฟิลลิ่งการกดที่นุ่มและมีความ Bouncy และสามารถ Built เป็นเสียงโทน THOCK ได้ง่าย
  • Creammy Sound แนะนำเลือก PC , POM + ALL FOAM
  • Clack Sound แนะนำเลือก Carbon fiber , Aluminium
วิธีการเชื่อมต่อ Connecting

หากต้องการใช้โหมดไร้สาย 

ให้ดึงปุ่ม CAPSLOCK ออก และจะเห็นตัวสวิตช์ที่ซ่อนอยู่ด้านใน สามารถเลื่อนขึ้นเป็น ON เพื่อเปิดโหมดไร้สาย และเลื่อนลงเพื่อเข้าโหมดเสียบสาย  (การเลื่อนสวิตช์จำเป็นจะต้องการแหนบเลื่อนขึ้น เนื่องจากไม่มีขาสวิตช์ยื่นขึ้นมา)  

กดค้างไว้ 3 วินาที 

FN + ~ | เข้าโหมดเสียบสาย Wired 

FN + 1  | เชื่อมต่อบลูทูธอุปกรณ์ที่ 1 

 FN + 2 | เชื่อมต่อบลูทูธอุปกรณ์ที่ 2 

FN + 3 | เชื่อมต่อบลูทูธอุปกรณ์ที่ 3 

FN + 4 | เชื่อมต่อโหมด 2.4G USB  

FN + Win | สลับโหมด macOS/win 

FN + Esc | รีเซ็ตเพื่อคืนค่าโรงงาน 

 

 

วิธีใช้งานหน้าจอ Screen Control

สำหรับกดใช้งานหน้าจอ LCD SCREEN

FN + Delete: เปิด/ปิด หน้าจอเพื่อแสดงผล

FN + Enter: เลือกเข้าโหมดนั้น

FN + Backspace: ยกเลิกปุ่ม

FN + →: ถัดไป

FN + ←: ก่อนหน้า

สำหรับหน้าจอของ DOT MATRIX

  • สามารถกดที่ตัวปุ่มได้ทันทีไม่ต้องกดฟังก์ชั่นลัด มีให้เลือกทั้งหมด 5 โหมด ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้
วิธีการปรับแต่งปุ่มและฟังก์ชั่นเพิ่มเติม 

QK80 MK2 รองรับ VIA SOFTWARE และใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด JSON.FILE 

สามรถเข้าผ่านลิ้งนี้ได้ทันทีและต้องกด FN + ~ เพื่อเข้าโหมดเสียบสายเท่านั้น 

MENU ที่แสดงให้เลือกในหน้าจอ LCD

- เปิดเมนูหลัก
- เข้าสู่ระดับเมนูถัดไป
- ยืนยันการเลือกของคุณ

จากซ้ายไปขวา คจะเห็นตัวเลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่

  1. ธีม THEME
  • มีให้เลือกทั้ง Default , Meow , Code

2. แอปพลิเคชั่น APP

- มีมินิเกม "Flappy Bird" ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องให้เล่น โดยบังคับการบินของนกผ่านปุ่ม Spacebar ปุ่มเดียวเท่านั้น ซึ่งจะมีการแสดง Scoreโชว์

- Custom Animation หน้าจอของตัวนี้ใส่รูปและไฟล์ GIF ได้ ซึ่งสามารถคัสตอมและเลือกได้เองผ่านการปรับตั้งค่าใน VIA

3. ช่วยเหลือ HELP

  • จะแสดงผลเป็น QR CODE ที่เชื่อมต่อไปที่ QUICK GUIDE จากทางโรงงาน

4. ตั้งค่า Setting

  • ตั้งค่าเวลา
  • ปิดไฟ RGB

วิธีการเปลี่ยนไฟ RGB MODE

FN +Tab | สลับโหมดไฟ ทั้ง DOT MATRIX และ ไฟ RGB ที่ตัวอักษร

FN + Q | Next Lighting Effect

FN + A | Previous Lighting Effect

FN + W | Lighting Brightness +

FN + S | Lighting Brightness -

FN + E | Lighting Hue +Hue range: 0° to 360°, in order of red, yellow, green, cyan, blue, and purple.

FN + D | Lighting Hue -FN + RLighting Saturation +

FN + F | Lighting Saturation -

FN + T | Lighting Speed +

FN + G | Lighting Speed -

Didn’t find your answer?

Don't hestitate to contact us